0

ปิดฉาก "หงส์ฟ้า" อลังการ สองคู่ชู้ชื่น ขวัญ-เติ้ล” เอ๋-โจม เคียงคู่ แฮปปี้เอ็นดิ้ง


หลังผ่านเหตุการณ์ร้ายๆ และความทุกข์ระทมมาเกือบตลอดทั้งเรื่อง ในที่สุด ทั้งคู่ของนางเอก “ขวัญ” อุษามณี ไวทยานนท์ กับพระเอก “เติ้ล” ธนพล นิ่มทัยสุข และคู่ของ “เอ๋” พรทิพย์ วงศ์กิจจานนท์ กับ “โจม” ศุกล ศศิจุลกะ ก็สมหวังในความรัก แฮ๊ปปี้เอ็นดิ้งปิดฉากละคร “หงส์ฟ้า” จนได้


เป็นฉากหลังจากที่ มานพ (เติ้ล ธนพล) และ ชัชวาล (วันชัย เผ่าวิบูลย์) สนับสนุนการกอบกู้บัลลังก์ของ ปาวิน (โจม ศุกล) ที่เมืองคัสตาย่าได้สำเร็จ ปาวินขึ้นครองราชย์ โดยพา นาฎลดา (เอ๋ พรทิพย์) กับ หงส์ฟ้า (ขวัญ อุษามณี) มาอยู่ด้วย และมีมานพมาอยู่ในฐานะราชบุตรเขย อีกทั้งยังสถาปนามานพเป็นรัชทายาทสืบทอดบัลลังก์ ปกครองเมืองคัสตาย่าต่อไปด้วย



สำหรับฉากนี้เนื้อเรื่องไม่มีอะไรมาก แต่เน้นไปในเรื่องของฉากอลังการ และการแต่งกายของนักแสดงที่เข้าฉากมากกว่า โดยฉากนี้ทีมงานได้เอาชุดเครื่องเพชรของจริงจากร้านเพชร Ta Tiara (ทา เทียร่า) ทั้งชุดมาเข้าฉากด้วย เพื่อให้ขวัญกับเอ๋ที่อยู่ในชุดเจ้าหญิงได้สวมใส่ ซึ่งพอทั้งคู่แต่งองค์ทรงเครื่องครบครันแล้ว ทำให้ดูสวยสง่าจับใจ จนหลายคนออกปากชม ทำเอาทั้งขวัญและเอ๋เป็นปลื้มถูกอกถูกใจอย่างมาก ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกกันยกใหญ่


และฉากนี้ทางผู้กำกับหยงยังให้ทีมงานเอาพรมแดงมาปูให้ทั้งขวัญ เติ้ล เอ๋และโจมได้เดิน เพื่อให้ดูเหมาะสมกับศักดิ์ศรีตำแหน่งเจ้าผู้ครองนคร เท่านั้นไม่พอเพื่อความอลังการณ์ขึ้นอีก ผู้กำกับหยงยังให้มีวงโยธวาทิศมาบรรเลงเพลง พร้อมกับตัวประกอบมาเข้าฉากอีกกว่าร้อยคน เมื่อทุกอย่างพร้อมก็เริ่มถ่ายทำเก็บไปทีละฉากๆ ซึ่งกว่าการถ่ายทำเก็บภาพสวยได้ทุกมุม จนถูกใจผู้กำกับได้หมดทุกฉากก็ปาเข้าไปดึกดื่นค่อนคืนเลยทีเดียว

แฟนละครติดตามดูฉากจบของละคร “หงส์ฟ้า” นี้ได้ในวันอาทิตย์ที่ 9 พ.ค. นี้ หลังข่าวภาคค่ำ เวลา 20.30 – 22.20 น. ทางช่อง 7

ฉากนี้ออกอากาศวันอาทิตย์ที่ 9 พ.ค. นี้ เป็นตอนจบ



0

มะนาว-ศรศิลป์ ก่อนคว้า Miss Teen ถึงปัจจุบัน

มาดูรูปภาพตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบันของ น้องมะนาว หรือ นางสาวศรศิลป์ มณีวรรณ์ มิสทีน ไทยแลนด์ 2008(Miss Teen Thailand 2008)กันดีกว่า



















ล่าสุดผลงาน มะนาว-ศรศิลป์ ละคร “ทีมซ่า ท้าฝัน” เห็นตัวเล็กๆ ท่าจะกินจุ



เห็นตัวเล็กๆแบบนี้ แต่ใครเล่าจะรู้ว่าสาวมะนาว-ศรศิลป์ นักแสดงจากละคร “ทีมซ่า ท้าฝัน” ของค่ายกันตนา กินจุ ขนาดนี้ ก็ดูจากสองมือของสาวมะนาวสิจ๊ะ….



0

“ขวัญ” เศร้า จำใจเข้าพิธีแต่งงานกับ “ไผ่” “เอ๋” “เปิ้ล” ขโมยซีน ใส่เกาะอก เสื้อแหวกลึกเห็นร่องนม เข้าร่วมงาน


ถูกสองอาหลาน ตัวแสบ อย่าง “เปิ้ล” ภารดี อยู่ผาสุข กับ “อุ่น” ปริยานุช อาสนจินดา คอยตามราวีจิกด่ามาตลอดทั้งเรื่อง เรียกว่าไปงานไหนก็ตามมาหาเรื่องได้ทุกงาน ไม่เว้นแม้กระทั่งงานแต่งงานของตัวเอง ทำเอานางเอก “ขวัญ” อุษามณี ไวทยานนท์ จากละครเรื่อง “หงส์ฟ้า” สุดเซ็ง เพราะนอกจากเซ็งชีวิตที่ต้องถูกบังคับให้แต่งงาน กับผู้ชายที่ตัวเองไม่ได้รักอย่าง “ไผ่” พาทิศ พิสิฐกุล แล้ว ยังไม่วายถูก “เปิ้ล” ที่งานนี้บินเดี่ยวใส่ชุดเซ็กซี่ ตามมาเอาเหล้าสาดหน้าต่อหน้าแขกในงาน พร้อมขุดกำพืดประจานว่ามีพ่อเป็นขอทานเป็นแม่เป็นโสเภณีในงานอีก

เป็นฉากงานแต่งงานของ หงส์ฟ้า (ขวัญ อุษามณี) กับวายุ (ไผ่ พาทิศ) หงส์ออกอาการเศร้าในงานแต่ง เพราะไม่ได้รักวายุ แต่ถูกนาฎลดาบังคับให้แต่ง มานพ (เติ้ล ธนพล)ได้นำกระเป๋าผ้าถักรูปหงส์ใส่กล่องห่อของขวัญมาให้หงส์ฟ้า แต่ถูก วิทย์(เบิร์ด ธราธิป) ขัดขวางไม่ให้เข้าไปในงาน ในงานนี้ รัชนีวิภา (เปิ้ล ภารดี) ก่อเรื่องโดยพูดถึงประวัติของหงส์ฟ้า ทำให้หงส์ฟ้าวิ่งหนีผู้คนออกไปเจอกับมานพ มานพพาหงส์ฟ้าหนีไป ครั้งนี้เองที่ นาฏลดา (เอ๋ พรทิพย์) ได้ประกาศบอกกับทุกคนว่าหงส์ฟ้าเป็นลูกของเธอเอง แต่ไม่เปิดเผยพ่อของหงส์ฟ้า ทำให้รัชนีวิภาและทุกคนคิดว่านาฏลดาปั้นเรื่องขึ้นมา



สำหรับฉากนี้ขวัญดูสวยจับตาเมื่ออยู่ในชุดเจ้าสาวสีขาว ในขณะที่ไผ่ซึ่งสวมบทเจ้าบ่าวก็ดูหล่อเหลาในชุดทักชิโด้ แต่งองค์ทรงเครื่องกันเสร็จทั้งคู่ ก็มาถ่ายรูปเล่นเก็บเป็นที่ระลึกกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งขวัญไม่ตื่นเต้นนัก เพราะเคยสวมใส่ชุดเจ้าสาวเข้าฉากในละครเรื่องอื่นมาก่อนแล้ว แต่ที่ดูสวยเด่นสะดุดตาจนขโมยซีนคู่บ่าวสาว กลับกลายเป็นสองสาว เอ๋กับเปิ้ล เพราะเอ๋อยู่ในชุดเกาะอกปิดอยู่ครึ่งเต้า อันนี้ถือว่ายังใจไม่ถึงพอ ผิดกับเปิ้ลที่ใจถึงกว่าเพราะอยู่ในชุดสีแดงเพลิง ข้างหน้าผ่าเว้าเปิดให้เห็นเนินเนื้อร่องอกโอโม่ขาวจั๊วะ แต่ก็ถือว่าทั้งคู่สวยความเซ็กซี่ไม่แพ้กันลยทีเดียว




ฉากนี้เปิ้ลจะต้องเอาเหล้าสาดใส่หน้าขวัญ ซึ่งเปิ้ลสาดเข้าเต็มหน้าขวัญแม่นอย่างจับวาง จากนั้นก็ออกอากาการเหวี่ยงประจานกำพืดขวัญเสียงดัง จนถูกเบิร์ดลากตัวออกไปจากงาน ฉากนี้นักแสดงทุกคนเล่นบทบาทของตัวเองได้อย่างแม่นยำ จนถึงคัทที่เติ้ลเดินหน้าเศร้าเอาของขวัญมาให้ แต่ก็ถูกเบิร์ดสกัดไม่ให้เข้าไปในงาน เติ้ลได้แต่เดินคอตกไปนั่งเศร้าอยู่ที่ล็อบบี้โรงแรม จนขวัญเกิดเรื่องวิ่งออกมาจากงานมาเจอเติ้ลเลยให้เติ้ลพาหนีไปทันที



แฟนละครติดตามดูฉากนี้ได้ในละครเรื่อง “หงส์ฟ้า” โดยฉากนี้จะออกอากาศในวันอาทิตย์ที่ 2 พ.ค. นี หลังข่าวภาคค่ำ เวลา 20.30-22.20 น. ทางช่อง 7



ฉากนี้ออกอากาศในวันอาทิตย์ที่ 2 พ.ค. นี้



0

“ขวัญ” สุดทน สลัดคราบนางเอก ขึ้นคร่อมตัว “อุ่น” ตบแหลก แถม ถีบ “เปิ้ล” หน้าคะมำถลาลงกองกับพื้น


หลังจากสิ้นสุดความอดทน และไม่ยอมเป็นผู้ที่ต้องถูกระทำอยู่ฝ่ายเดียวอีกต่อไป ทำให้นางเอกสาว “ขวัญ” อุษามณี ไวทยานนท์ ได้ออกแรงตบคืนฝั่งนางร้ายบ่อยขึ้น คราวที่แล้วได้ตบ “อุ่น” ปริยานุช อาสนจินดา จนตกสระน้ำแต่ดันผิดคิวถูก “เปิ้ล” ภารดี อยู่ผาสุข ตบเข้าที่หน้าเต็มๆ มาแล้ว คราวนี้ถึงคิว “ขวัญ” เอาคืนบ้าง เพราะนอกจากจะได้จะได้ขึ้นคร่อมตัวและตบอุ่นอย่างเมามันส์แล้ว ยังได้ถีบ “เปิ้ล” จนหน้าคะมำอีกด้วย รับรองว่าฉากนี้แฟนละครฝั่งนางเอกได้สะใจกันแน่ๆ


เป็นฉาก อนุวัฒน์ (โอ๊ต วรวุฒิ)จัดงานเปิดตัวคอนโดของตนที่โรงแรมใหญ่ คุณหญิงชฎา (ดวงใจ หทัยกาญจน์) นาฎลดา (เอ๋ พรทิพย์) และ หงส์ฟ้า (ขวัญ อุษามณี) ได้ไปร่วมงานด้วย ในงานหงส์ฟ้าถูก พริ้งพิไล (อุ่น ปริยานุช) ตรงเข้าตบจนล้มลง ยังไม่ทันลุกขึ้นก็ถูก รัชนีวิภา (เปิ้ล ภารดี) เอาน้ำสาดใส่หน้า จากนั้นก็ถูกรัชนีวิภาปรี่เข้ามาหวังจะตบอีกครั้ง แต่ครั้งนี้หงส์ฟ้าไม่อยากยอมเป็นฝ่ายถูกกระทำอีกต่อไป จึงต่อสู้ หลบฝ่ามือของพริ้งพิไลได้ ก็ตบกลับ จนพริ้งพิไลล้มลง หงส์ฟ้าได้โอกาสกระโดดคร่อมตัวพริ้งพิไล ตบหน้าพริ้งพิไลซ้ายขวา รัชนีวิภากรีดร้อง ตรงเข้าดึงผมหงส์ฟ้า อนุวัฒน์ปราดเข้าดึงร่างรัชนีวิภาออกมา


วายุ(ไผ่ พาทิศ) มองหน้าหงส์ฟ้าอย่างผิดหวัง หงส์ฟ้าลุกขึ้น ทุกคน มองหงส์ฟ้าอย่างตะลึง วายุประคองพริ้งพิไลให้ลุกขึ้น พริ้งพิไลออเซาะวายุ รัชนีวิภาบังคับให้หงส์ฟ้ากราบขอโทษพริ้งพิไล ไม่เช่นนั้นนาฎลดาต้องคุกเข่าขอโทษแทน เพื่อปกป้องหงส์ฟ้านาฎลดายอมคุกเข่ายกมือไหว้ ขอโทษพริ้งพิไลด้วยน้ำตา หงส์ฟ้าเสียใจมากต่อว่าสองอาหลาน รัชนีวิภาปราดเข้าตบหงส์ฟ้า แต่หงส์ฟ้าหลบทันและถีบรัชนีวิภาจนหน้าคะมำไป ขณะที่ทุกคนกำลังตะลึงหงส์ฟ้าก็เดินออกจากห้องนั้นไปอย่างแน่วแน่



ฉากนี้นักแสดงเข้าฉากค่อนข้างเยอะมากและเป็นฉากยาว ทำให้ต้องระวังเรื่องของมุมกล้อง แต่ละคนต้องจำจุดที่ตัวเองยืนให้แม่นไม่ให้บังมุมกล้องกัน และยังต้องจำไดอะล็อคของตัวเองกันให้แม่นด้วยว่าจะต้องพูดในช่วงไหน แถมฉากนี้ยังเป็นฉากบู๊เล็กๆ ระหว่างขวัญ อุ่นและเปิ้ล ทั้งสามคนนี้เลยต้องซักซ้อมคิวตบให้ดี ก่อนถ่ายทำผู้กำกับหยงพูดแหย่เปิ้ลไปกับขวัญว่า “ถูกตบมาหลายฉากแล้ว คราวที่แล้วก็ผิดคิวถูกตบฟรี ครั้งนี้อยากจะสะสางอะไรกับเปิ้ลก็เต็มที่เลยนะขวัญ” ขวัญรีบรับมุขตอบกลับไปต่อหน้าเปิ้ลว่า “หนูเตรียมตัวเอาคืนอยู่แล้วค่ะ” แต่พอถ่ายทำจริงๆขวัญก็ไม่ใจร้ายได้แต่เล่นไปตามบท

จังหวะที่ขึ้นนั่งคร่อมแล้วตบอุ่นซ้ายขวา ขวัญเล่นได้ดีมุมกล้องดูเหมือนอุ่นถูกตบจริงๆ จนถึงคัทที่ขวัญต้องถีบเปิ้ล เปิ้ลเล็งเห็นว่าขวัญถีบแบบยั้งเท้าไว้หลายคัทแล้วไม่ผ่านซักที เพราะอารมณ์ไม่ได้และภาพออกมาไม่สมจริง เลยแสดงสปิริตบอกขวัญไปว่าให้ถีบจริงเลย ขวัญรับเจตตนารมย์เปิ้ลทันที คราวนี้พอเปิ้ลปรี่เข้าตบขวัญ ขวัญหลบได้อย่างว่องไว ทำให้เปิ้ลตบพลาดหันหลังให้ ขวัญได้จังหวะยกเท้ายันและถีบเข้าที่สะโพกเปิ้ลเต็มแรง ส่งตัวเปิ้ลหน้าคะมำถลาเปนนกปีกหักลงไปนั่งกองลงกับพื้นทันที พูดไดอะล็อคเสร็จขวัญก็เดินออกจากห้องไป อย่างแน่วแน่ทันที คราวนี้ผ่านเลยภาพสมจริงสุดๆ


แฟนละครติดตามดูฉากสะใจนี้ได้ในละครเรื่อง “หงส์ฟ้า” โดยฉากนี้จะออกอากาศในวันเสาร์ที่ 1 พ.ค. และ วันอาทิตย์ที่ 2 พ.ค. นี้ หลังข่าวภาคค่ำ เวลา 20.30-22.20 น. ทางช่อง 7



0

เอ๋ ไม่แคร์รับบทแม่ ถือเป็นงานแสดง ใช้สมาธิสูงกับบทเจ้าน้ำตา หวานใจป๋อดูถึงกับอินไปด้วย



อายุยังน้อย แต่ต้องรับบทเป็นแม่ในละครเรื่อง “หงส์ฟ้า” นักแสดงสาว “เอ๋” พรทิพย์ วงศ์กิจจานนท์ บอกว่า ไม่คิดมากเพราะเป็นเรื่องของงานแสดง และเพราะตัวละครตัวนี้มีความสำคัญในเรื่องอย่างมาก แถมได้กลับไปเล่นคาแร็คเตอร์เดิม สมัยเข้าวงการใหม่ๆที่รับแต่บทเรียบร้อย แต่ต้องใช่สมาธิสูงกับบทเจ้าน้ำตา บอกพระเอก “ป๋อ” ณัฐวุฒิ สะกิดใจ หวานใจได้ดูยังอินไปกับตัวละครด้วย



โดยเอ๋บอกว่า "เอ๋รับบทเป็นนาฎลดา คาแร็คเตอร์จะนิ่งๆ เรียบร้อย ซึ่งก็ถือว่าได้กลับมารับบทบาทเดิมสมัยที่เข้าวงการใหม่ๆ ก่อนที่จะเปลี่ยนไปเล่นบทร้าย กลับมาเล่นครั้งนี้ก็ต้องแอ๊บเรียบร้อยเอามากๆเลยค่ะ เพราะห่างจากบทแบบนี้ไปนาน แถมตัวละครตัวนี้ยังเจ้าน้ำตา มีฉากร้องไห้เยอะมากเลย ก่อนเข้าฉากร้องไห้ก็ต้องทำสมาธิเป็นพิเศษ เพราะไม่เก่งขนาดสั่งน้ำตาให้ไหลได้ทันทีค่ะ แล้วเราต้องวางท่าให้มีสง่าราศีด้วย ต้องดูนิ่งๆ มันก็อึดอัดนิดนึง เพราะตัวจริงเอ๋ค่อนข้างกระโดกกระเดกและเฮฮา แถมยังไปรับบทนางร้ายที่ต้องกรี๊ดกร๊าดอยู่นาน แต่ก็ไม่มีอะไรน่าหนักใจ เรื่องนี้รับบทเป็นแม่ขวัญ ซึ่งถือว่ามีลูกที่โตแล้ว ตอนแรกที่รู้ว่าต้องเล่นบทแม่ก็คิดเหมือนกัน เพราะเราเองก็ยังไม่แก่ขนาดมีลูกโตขนาดนี้ แต่พอเห็นว่าตัวละครตัวนี้มีอะไรให้เล่นเยอะ และเป็นตัวสำคัญของเรื่องตัวหนึ่ง ก็ตัดสินใจรับเล่น ที่สำคัญคิดว่าเราเป็นนักแสดง ต้องเล่นให้ได้ทุกบทบาท เมื่อทางผู้ใหญ่เห็นว่าเราเหมาะสมแล้ว เราก็ต้องทำให้ดีที่สุดค่ะ ฟีดแบ็คจากละครเรื่องนี้ถือว่าค่อนข้างดีนะ ไปไหนมาไหนมีแต่คนเข้ามาทักทาย แสดงความสงสาร ถามว่าเมื่อไหร่นาฎลดาจะมีความสุขกับคนอื่นเค้าซะที แสดงว่าเค้าดูกันจริงนะเนี่ย พี่ป๋อเองดูแล้วก็ชอบนะคะ บอกว่านานๆได้ดูเอ๋เล่นละครดราม่าเจ้าน้ำตาแบบนี้ ก็ทำเอาอินกับตัวละครตัวนี้ไปด้วยเหมือนกัน เรื่องนี้ได้แต่งชุดเจ้าหญิงด้วย แต่งเสร็จสวยมากเลยค่ะ ชอบที่สุด ก็ฝากขอบคุณแฟนละครที่ติดตามดูละครเรื่องหงส์ฟ้ากันด้วยนะคะ"



0

คนไททิ้งแผ่นดิน


กำหนดฉาย :
28 เมษายน 2553
แนว : ดราม่า-แอ็คชั่น
นำแสดง : อานัส ฬาพานิช (กุมภวา), ลลิสา สนธิรอด(บุญฉวี), ปราปต์ปฏล สุวรรณบาง (ลิตงเจีย) , อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา (เตียวเหลียง), ธันญ์ ธนากร (ลำพูน), ซาร่า เล็กจ์ (บัวคำ), ยังเติร์ก กัลย์จาฤก (เฟเสียน), อรรถชัย อนันตเมฆ (ลิบุ๋น), อัศวิน เมืองสุวรรณ (ลิบอง / สีบุญ), กันตะ กัลย์จาฤก (ซุนโป), ยืนยง โอภากุล (บุญปัน), ดิลก ทองวัฒนา (ขุนสาย), เขมจิรา กมุทชาติ (ลำเพา)
กำกับ : นิรัตติศัย กัลย์จาฤก


เรื่องย่อ คนไททิ้งแผ่นดิน

แผ่นดินฮานหลังพุทธกาลไม่ถึงพันปี จิ๋นอ๋องผู้ปกครองอาณาจักรของชนเผ่าฮานเหนือลุ่มน้ำโขงอันยิ่งใหญ่ มีเมืองหลวงอยู่ที่นครโลยาง (ลัวะหยาง) พยายามแผ่ขยายอำนาจลงมาทางตอนใต้ เวลานั้นยังคงมีชนเผ่าต่าง ๆ อาศัยรวมกันอยู่มากมาย ชนเผ่าไทเป็นหนึ่งในนั้น แม้ชาวไทด้วยกันเองก็หารวมตัวกันเป็นอาณาจักรได้ไม่ ยังคงแยกกันปกครองตัวเอง ใครที่อ่อนแอกว่าก็ต้องรับชะตากรรมที่ผู้เข้มแข็งกว่ากำหนดให้ ดังเช่นชะตากรรมของเขาสมิงเชิงดาว ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่มีคนหลายชนเผ่ามาอาศัยอยู่ร่วมกัน เมื่อทัพฮานนำโดย เตียวเหลียง (อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา) ยกมาตี คนไททุกคนต่อสู้อย่างกล้าหาญ แต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ คนไทล้มตายหมดสิ้นจนแทบไม่เหลือชีวิตกลับมาบอกข่าวแพ้แก่ลูกเมียเลย



20 ปีต่อมาเมืองลือยังคงอยู่ใต้ปกครองของฮาน แต่เป็นโชคดียิ่งของเมืองลือ เมื่อผู้ที่ฮานส่งมาปกครองนั้นคือแม่ทัพเตียวเหลียง ผู้มีน้ำใจเป็นธรรม ชาวเมืองลือแม้ลำบากกายแต่ก็หาได้ลำบากใจไม่ ในงานเทศกาลผีเสื้อ เตียวเหลียงอนุญาตให้คนไททั้ง 6 แคว้น ลือ เชียงแส ธาไนย ยูโร ข่านุ และไต๋ มาร่วมสังสรรค์กัน และจัดให้มีการแข่งขันฝีมือนานาชนิด



งานเทศกาลที่เต็มไปด้วยหนุ่มสาวชาวไทนี้เอง ลิบอง (อัศวิน เมืองสุวรรณ) ทหารเอกของฮานเกิดพึงใจในตัว บัวคำ (ซาร่า เล็กจ์) หญิงไทชาวลือน้องสาวของ ลำพูน (ธันญ์ ธนากร) ช่างตีดาบที่มีฝีมือ ลิบองตามนางบัวคำไปที่ทะเลสาบใช้กำลังลวนลามนาง เฟเสียน (ยังเติร์ก กัลย์จาฤก) ทหารฮานคนรักของบัวคำ เข้าไปช่วยไว้ได้ทัน เฟเสียนยึดดาบลิบองไว้ แล้วนำมามอบให้เตียวเหลียง เตียวเหลียงพิจารณาความผิดของลิบองตัดสินเนรเทศลิบองกลับโลยางทันที สร้างความโกรธแค้นให้ลิบองมาก



ลิบุ๋น (อรรถชัย อนันตเมฆ) ผู้สำเร็จราชการแห่งเมืองโลยาง โกรธจัดที่เตียวเหลียงบังอาจฉีกหน้าขับไล่ลูกชายของตนกลับโลยาง ลิบุ๋นจึงส่งลิบองกลับมาที่เมืองลืออีกครั้ง เพื่อประกาศคำสั่งของผู้สำเร็จราชการปลดเตียวเหลียงออกจากตำแหน่ง ด้วยสาเหตุทุจริตฉ้อราษฎร์บังหลวงและให้คุมตัวกลับโลยางในทันที

แล้วให้ ลิตงเจีย (ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง) ผู้เป็นน้องชายปกครองเมืองลือแทน ลิตงเจียประกาศยกเลิกข้อกำหนดการปกครองของเตียวเหลียงทั้งหมด แล้วประกาศเพิ่มภาษี บังคับให้คนไทกราบไหว้เคารพตนกับนางฮ่วนสี ภรรยา ห้ามคนไทมีอาวุธในครอบครองและห้ามฮานกับไทรักกัน มิฉะนั้นจะถูกลงโทษอย่างรุนแรงที่สุด ลิบองนำทหารออกยึดอาวุธจากบ้านคนลือทั้งหมดไม่เว้นแม้แต่มีดทำครัว อาวุธของคนไททั้งหมดถูกนำมาเผา แล้วหลอมปั้นเป็นหม้อติ้งขนาดใหญ่ วางไว้ข่มขวัญชาวเมืองลือที่ลานเมือง สร้างความเจ็บปวดให้คนไทโดยเฉพาะลำพูนเป็นอย่างมาก



ในวันนั้นเองกุฉินคนขายแรงที่มีพละกำลังมหาศาล แต่สมองเท่าเด็กสิบขวบ ก่อเหตุทำรถม้าของนางฮ่วนสีคว่ำ นางฮ่วนสีถูกรถทับคอหักตายคาที่ ลำพูนรู้ดีว่าภัยมาถึงคนไทแน่แล้ว จึงรีบพากุฉินหลบหนีไปอยู่ที่บ้านตน ลิตงเจียโกรธจัดที่นางฮ่วนสีตาย สั่งล่าหัวกุฉินมาให้ได้ บัวคำกับลำพูนตัดสินใจที่จะลุกขึ้นสู้จิ๋น บัวคำขอให้ลำพูนพากุฉิน หนีไปขอความช่วยเหลือจากคนไท ที่เมืองเชียงแสก่อน โดยนางจะถ่วงเวลาเอาไว้และตามมาทีหลัง จนลำพูนกับกุฉินหลบหนีมาถึงเมืองเชียงแส ลิบองนำสารจากลิตงเจียมาข่มขู่ให้ บุญปัน (ยืนยง โอภากุล) เจ้าเมืองเชียงแส รีบส่งตัวลำพูนและกุฉินกลับเมืองลือ มิฉะนั้นเชียงแสจะลุกเป็นไฟ

แต่บุญปันตัดสินใจไม่ส่งตัวลำพูน กับกุฉินให้ฮานเพราะเชื่อว่า ถึงส่งให้เชียงแสก็ยังไม่พ้นความเดือดร้อนอยู่ดี ลำเพา ลูกขอทานที่บุญปันให้มาสอน บุญฉวี (ลลิสา สนธิรอด) ร้องเพลง พยายามคัดค้านแต่ก็มิอาจเปลี่ยนใจบุญปันได้ ทั้งหมดช่วยกันคิดหาอุบายลอบฆ่าลิตงเจีย โดยตั้งกองคาราวานเดินทางไปยังเมืองลือ เพื่อนำส่วยมาไถ่โทษที่ไม่สามารถจับลำพูนกับกุฉินส่งมาให้ได้ ลิตงเจียพอใจในความงามของบุญฉวี จึงหลงเชื่อยอมให้มีการร่ายรำร่ำสุราในกองทัพ เมื่อได้จังหวะหญิงชาวเชียงแสและกลุ่มของ กุมภวา (อานัส ฬาพานิช) ที่ปลอมตัวเข้ามาเป็นนักดนตรี ก็นำอาวุธที่ซ่อนไว้เข้าฟาดฟันจิ๋นจนแพ้พ่าย



หลายปีต่อมา จิ๋นอ๋องยังตรอมใจกับการเสียทหารจิ๋นเกือบสองแสนที่ทุ่งลาดขวัญ ซุนโป (กันตะ กัลย์จาฤก) รู้ว่า ขุนสาย (ดิลก ทองวัฒนา) เมืองไต๋เป็นคนโลภจึงมุ่งสร้างรอยร้าวจากเมืองไต๋ จิ๋นอ๋องส่งทองคำล้ำค่า พรมแดง หญิงสาวมากำนัลแก่ขุนสาย และอวยพรให้ขุนสายได้เป็นผู้นำแคว้นไทในเร็ววัน โดยหญิงที่ส่งมากำนัลนั้นแท้จริงคือลำเพานั่นเอง ซึ่งครั้งนี้เธอยั่วยวนขุนสายจนหลงใหล พร้อมใช้มารยาหญิงหลอกล่อให้ขุนสาย นำเชียงแสมาเป็นของกำนัลให้แก่นาง ขุนสายกับลำเพายกกำลังเมืองไต๋ไปยึดเมืองเชียงแส คืนนั้นเมืองเชียงแสถูกเผาทำลายย่อยยับ ซุนโปรู้ข่าวก็ดีใจว่าทองทำลายไทได้ รีบเสนอจิ๋นอ๋องให้แต่งตั้งเตียวเหลียง เป็นแม่ทัพไปปราบคนไทอีกครั้ง เตียวเหลียงจำใจกลับโลยาง เพื่อรับบัญชาจิ๋นอ๋อง

กุมภวานำคนไทรบกับจิ๋นอีกครั้ง ทว่าครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อน กำลังไทเหลือเพียงน้อยนิดเชียงแสกับไต๋วอดวายหมดสิ้น ยูโรกับข่านุก็กำลังลำบาก แม่ทัพที่มีสติปัญญาและกล้าหาญตายหมด ไพร่พลมีน้อยจำเป็นต้องเกณฑ์เด็กหนุ่มมาช่วยรบ ในขณะที่เตียวเหลียงยกทัพผ่านเขาธาไนย เข้ามาใกล้ทุ่งลาดขวัญทุกที ฤาการรบในครั้งนี้ คนไทอาจสิ้นเผ่าพันธุ์บนผืนดินแห่งนี้…

คนไททิ้งแผ่นดิน คืออีกหนึ่งภาพยนตร์ที่จะนำไปสู่ความซาบซึ้ง และตราตรึงใจให้คนไทยรักชาติมากยิ่งขึ้น เตรียมตัวพบกันในวันที่ 28 เมษายน 2553 นี้!! ทุกโรงภาพยนตร์


--------------------------------------------------------------------------

Character นักแสดงภาพยนตร์ คนไททิ้งแผ่นดิน


กุมภวา นำแสดงโดย อานัส ฬาพานิช

นักรบหนุ่มผู้ยึดติดกับภาพอดีตที่โหดร้าย เนื่องจากเยาว์วัยต้องทนเห็นผู้เป็นแม่ถูกพวกทหารฮานสังหารต่อหน้า โดยที่ตนเองไม่สามารถช่วยได้ จึงเกิดความความแค้นต่อฮานเป็นอย่างมาก กุมภวามีความเจนจัดในเรื่องยุทธ์ศาสตร์การรบ เนื่องจากได้รับการสั่งสอนจากพ่อเมื่อสมัยเด็ก ๆ และมีสหายของพ่อคอยช่วยฝึกปรือฝีมืออยู่เป็นประจำ กุมภวาเป็นนักรบที่สงบเยือกเย็น คิดก่อนจะลงมือทำ มีลักษณะเป็นผู้นำ มีอุดมการณ์ ต้องการเป็นไทจากฮานและต้องการมีแผ่นดินเป็นของตนเอง


ลำพูน นำแสดงโดย ธันญ์ ธนากร

หนุ่มนักตีดาบแห่งเมืองลือ เป็นคนใจร้อน มีความมุทะลุดุดัน ไม่กลัวใคร รักศักดิ์ศรี รักความอิสระและเกลียดการกดขี่ห่มเหง จึงต้องการหลุดพ้นจากการเป็นทาสของฮาน ลำพูนเฝ้ารอโอกาสที่จะลุกขึ้นมาสู้ เพื่อทวงแผ่นดินของตนคืนและนอกจากอิสรภาพแล้ว คนที่มีความสำคัญในชีวิตลำพูนคือ บัวคำ ผู้เป็นน้องสาวแท้ ๆ



บุญฉวี นำแสดงโดย ลลิสา สนธิรอด

บุตรสาวของ บุญปัน เจ้าเมืองเชียงแสผู้ชำนาญการใช้หน้าไม้และการขี่ม้า เป็นคนห้าวหาญ ตรงไปตรงมา ใจร้อนบ้างในบางครั้งด้วยความที่อ่อนประสบการณ์ แต่บุญฉวีก็มี กุมภวา ผู้ที่นางให้ความเคารพนับถือเยี่ยงพี่ชายคอยให้คำปรึกษา และคอยเตือนสติอยู่เสมอ บุญฉวีเป็นคนรักแรง เกลียดหนัก หากถูกใครทำร้ายนางจะร้ายคืนเช่นกัน เหมือนดังเช่นที่ทำกับ ลำเพา ลูกสาวขอทานที่เนรคุณวางยาพ่อของนาง บุญฉวีมุ่งหวังที่จะให้คนไทหลุดพ้นจากความเป็นทาสเช่นทุกคน ยอมทำทุกทางแม้ต้องลดเกียรติของตน เพื่อให้มีหนทางเข้าถึงตัว ลิตงเจีย ทำให้แผนการขับไล่ฮานออกจากแผ่นดินไทเป็นผลสำเร็จ



บัวคำ นำแสดงโดย ซาร่า เล็กจ์

หญิงชาวลือน้องสาวของ ลำพูน มีความอ่อนหวานสมกับเป็นหญิง แต่จิตใจกล้าหาญเด็ดเดี่ยวไม่แพ้ชาย รักอิสระ ต้องการให้คนไทพ้นจากการเป็นทาสของฮานเช่นเดียวกับพี่ชาย แต่นอกจากการต่อสู้เพื่อแผ่นดินแล้ว บัวคำต้องต่อสู้เพื่อความรักต่างชนชาติระหว่างตนกับ "เฟเสียน" ทหารเอกของฮาน ที่แม้แต่ ลำพูน เองก็ไม่เห็นด้วย บัวคำบูชาความรักไม่ต่างจากบูชาแผ่นดินและอิสรภาพ นางยอมตายเพื่อแลกกับอิสรภาพทางความรัก และจิตวิญญาณที่ไม่ต้องการเป็นทาสใคร



ลิตงเจีย นำแสดงโดย ปราปต์ปฎล สุวรรณบาง

น้องชายร่วมสายโลหิตของผู้สำเร็จราชการ ที่ฮานส่งมาปกครองเมืองลือแทน เตียวเหลียง ลิตงเจียเป็นชายจิ๋นผู้โฉดชั่ว โหดเหี้ยมอำมหิต คลั่งอำนาจ และบ้าผู้หญิง เมื่อมาปกครองเมืองลือ ก็กดขี่ข่มเหงคนไทเยี่ยงคนเถื่อน อย่างไร้ความปราณี สร้างความเดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า ด้วยความคลั่งไคล้ในอิสตรี และไม่เจนจัดในกลยุทธการศึก ทำให้ลิตงเจียต้องพลาดท่าเสียทีแก่กลุ่มของ กุมภวา

เฟเสียน นำแสดงโดย ยังเติร์ก กัลย์จาฤก

ทหารเอกรูปงามแห่งกองกำลังฮาน ผู้เป็นมือขวาของ เตียวเหลียง ที่แม้มีฝีมือในการรบแต่กลับไม่ฝักใฝ่ในการรบราฆ่าฟัน มีหัวใจเป็นกวี แม้กายจะเป็นฮานแต่จิตใจของเฟเสียนก็มอบให้กับ บัวคำ หญิงสาวชาวไทอย่างแท้จริง โดยไม่คำนึงถึงความต่างแห่งชนชั้นและเชื้อชาติ ในที่สุดเขาจะสามารถอยู่เพื่อบูชาความรักได้หรือไม่ ถือเป็นอีกหนึ่งบทบาทที่ท้าทายดาวรุ่งหน้าใหม่เป็นอย่างมาก


จิ๋นอ๋อง นำแสดงโดย นิรัตติศัย กัลย์จาฤก

ผู้ปกครองแผ่นดินฮาน อาณาจักรของชนเผ่าฮานเหนือลุ่มน้ำโขง ต้องการขยายอาณาจักรอันยิ่งใหญ่ลงมาทางใต้ ก่อกำเนิดสงครามระหว่างไทกับฮาน จิ๋นอ๋องเป็นนักปกครองที่มีความสงบเยือกเย็น น่าเกรงขาม พูดน้อยแต่มีน้ำหนักมีซุนโปเป็นเสนาธิการคู่ใจข้างกาย



บุญปัน นำแสดงโดย ยืนยง โอภากุล

เป็นหนึ่งในคนไทส่วนน้อยที่รอดชีวิตมาจากการสู้รบ ณ เขาสมิงเชิงดาว บุญปันอพยพกลุ่มคนไทบางส่วนมาตั้งรกราก และขึ้นเป็นเจ้าเมืองแห่งชาวเชียงแส บุญปันเป็นคนกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว มีน้ำใจรักในความอิสระเป็นผู้นำที่ดี เป็นที่พึ่งพาของชาวบ้านและคนไททุกหมู่เหล่า เมื่อเห็นคนไทด้วยกันเองเดือดร้อน ก็พร้อมยื่นมือเข้าช่วยเหลือดังที่ช่วย ลำพูน และ กุฉิน

เตียวเหลียง นำแสดงโดย อธิวัฒน์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา

นักรบแห่งฮานผู้มีปรัชญา ไม่ข่มเหงคนที่ด้อยกว่า เป็นนักรบที่แท้จริง มีความยุติธรรม เตียวเหลียงถูกส่งให้มาปกครองคนไทที่เมืองลือ แม้จะอยู่ในฐานะเจ้าเมืองมีอำนาจล้นเหลืออยู่ในมือ แต่เตียวเหลียงก็ไม่เคยใช้อำนาจนั้นข่มเหงใคร ปกครองคนไทด้วยทศพิธราชธรรม ไม่แบ่งแยกชนชั้น และถือว่าฮานกับคนลือมีความเสมอกัน


Trailer



Link http://www.youtube.com/watch?v=qvS0tQA-j_U



0

รูปน้องแพร - ครูนภัส ครูสาวสุดน่ารักในเรื่อง "ทีมซ่า ท้าฝัน"

จากสาวน้อยวัยใส เผลอแป๊บเดียวโตเป็นสาวซะแล้ว สำหรับสาว แพร – เอเมอรี่ อดีตนักร้องวงบับเบิ้ลเกิร์ล ที่กระโดดมารับงานละครกับบทบาทนางเอกเต็มตัวครั้งแรกใน “ทีมซ่า ท้าฝัน” ของค่ายกันตนา ทางช่อง 7 สี

น้องแพรตอนนี้ยังเด็กอยู่เลย (ออก Album Bubble Girl)


ส่วนหนึ่งของภาพ Set ของน้อง แพร เอมเมอรี่ ในหนังสือ Her World






เพิ่มเติม บทสัมภาษณ์น้องแพร กับการเป็นครูนภัส ^^



“ เรื่องนี้แพร รับบท เป็นครูนภัสค่ะ เป็นครูสอนวิชาพละ เป็นคนที่ไม่ได้เก่งเรื่องกีฬาเท่าไหร่ แต่มีหัวใจของความเป็นครูเต็มร้อย เป็นคนที่เด็ดเดี่ยว กล้าชนกับทุกเรื่อง ได้มาเล่นเรื่องนี้ก็สนุกดีค่ะ ที่ได้เล่นเป็นครูอะไรแบบนี้ อย่างตอนเด็กๆ เวลาเราไปเรียน แพรก็เคยฝันว่าอยากลองเป็นคุณครูบ้าง อยากรู้ความรู้สึกเวลาที่ได้ดุนักเรียนมันเป็นยังไงค่ะ แล้วตอนนี้ได้มาคุมเด็กๆ แล้ว ก็สนุกดีค่ะ ชอบ และในเรื่องแพรจะออกแนวโก๊ะๆ หน่อย ก็เหมือนตัวเองดีค่ะ ไม่ต้องปรับอะไรมาก จะมีก็คงจะเป็นเรื่องของเสียง คือแพรจะพูดเสียงแข็งไปค่ะ แบบจะออกแนวห้าวๆหน่อย จนบางทีพี่แชมป์ผู้กำกับแอบแซวว่า เรานางเอกนะ อย่าห้าวมาก (หัวเราะ) เพราะในเรื่องเราต้องเป็นครูที่ใจดีนิดนึงไงค่ะ ''